ประเทศจีนและกำแพงกั้นอันยิ่งใหญ่

มิถุนายน 22, 2018


ถ้าพวกคุณเหมือนกับฉัน
คุณคงรักการท่องเที่ยวไปทั่วโลกเหมือนกัน
ไล่เก็บแต้มทุกประเทศเหมือนกับนักโบว์ลิ่งที่สไตรค์ กวาดทุกพินจนหมดราง
เยอรมันเหรอ? เรียบร้อยแล้ว แอฟริกาใต้ล่ะ? ก็ไปมาแล้ว ส่วนเปรูล่ะ?
ฉันก็ไม่มีพลาด แน่นอนว่าคุณก็ต้องรักอินเตอร์เนตมากเช่นกันเวลาเที่ยว เพราะมันทำให้เราปลอดภัยและประหยัดด้วย
ไม่ว่าจะพวก Google
Maps, TripAdvisor ธนาคารออนไลน์ต่าง ๆ
ที่ต้องใช้อินเตอร์เนตขณะเดินทาง หรือแม้กระทั่งแอพอื่น ๆ (ใช่ไหมจ๊ะ เหล่าสาวก instagram)

ทุกวันนี้
อินเตอร์เนตทำให้การท่องเที่ยวของเราง่ายขึ้น ถ้าคุณมีอินเตอร์เนต คุณก็เชื่อมต่อกับ
Google
Maps ได้และไม่มีทางหลงในเมืองที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาอีกต่อไป! หรือถ้าคุณยืนอยู่หน้าร้านอาหารสักร้านและอยากอ่านรีวิวร้านนั้นน่ะเหรอ?
ก็ย่อมทำได้ง่าย ๆ แค่เช็คแอพ TripAdvisor ก่อนเข้าไปก็ได้

ในยุคของอินเตอร์เนตไม่ใช่แค่จะทำให้คุณไม่หลงทาง
(ที่ฉันยังพอเอาตัวรอดได้) แต่คุณยังสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ
และครอบครัวของคุณได้ด้วย ไม่ว่าจะโพสต์เฟซบุ๊ค อีเมล์ หรือรูปต่าง ๆ ในอินสตาแกรม

อย่างไรก็ดีถ้าแผนของคุณคือการไปท่องเที่ยวที่ประเทศจีนในปี 2018 มีบางอย่างที่คุณควรรู้ก่อนไปที่นั้น นั้นก็คือคุณจะไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ดังหลาย ๆ เว็บได้ในจีน แม้จะฟังดูประหลาดสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ที่นู้น เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม หรือกูเกิ้ล เป็นเว็บไซต์ส่วนหนึ่งที่ถูกรัฐบาลจีนบล็อก คุณอาจโชคดีที่ยังเข้าถึง Gmail และ Google Chromeได้ แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดนัก

ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้อินเตอร์เนตแพจเกจอะไรหรือเชื่อมต่อกับWifi ที่ไหนก็ตาม คุณจะได้รับคำเตือน “ไม่พบเว็บไซต์”ใน

เบราว์เซอร์ของคุณเมื่อพยายามเข้าชมเว็บไซต์จำนวนมากที่เราใช้อย่างคุ้นเคยที่ประเทศอื่น ๆ

ถ้าลองหาข้อมูลสักหน่อย
(ด้วยการเริ่มอ่านบล็อกนี้ก็ดีเหมือนกันนะ!)
จะพบว่าคุณก็ยังสามารถเข้าเว็บไซต์โปรดของคุณและทำให้การเที่ยวในประเทศจีนของคุณสะดวกขึ้น
ขั้นแรกเลยคือคุณต้องมี Traveler’s WIFI hotspot เพราะเมื่อคุณมี
Traveler’s Wifi แล้วคุณก็จะสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เนตได้ทุกทีที่คุณอยู่ในจีน

เมื่อคุณสั่งซื้อ Traveler’s WiFI ของคุณแล้ว ต่อมาคุณต้องเลือกว่าคุณจะเข้าเว็บไซต์หรือแอพอะไรที่คุณต้องการ ซึ่งมีสองทางเลือก แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นไปได้สำหรับ 95% สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปประเทศจีน!

ทางเลือกแรกคือคุณต้องซื้อ
VPN
(Virtual Private Network) VPN คือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยระหว่างคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ (ซึ่งประเทศไหนก็ได้ที่ไม่ใช่จีน)
ดังนั้นคุณจะสามารถเข้าเว็บไซต์ที่คุณต้องการได้ เพราะระบบจะเข้าใจว่าคุณเชื่อมต่อมาจากประเทศอื่น
ราวกับว่าคุณไม่ได้อยู่ในประเทศจีน และกำแพงเมืองจีนก็ทำอะไรคุณไม่ได้ ฮูเร่!
กลับมาแล้วจ่ะ เฟซบุ๊คจ๋า!

ทางเลือกที่สอง
(โดยไม่ต้องใช้ VPN)
หมายถึงคุณต้องพูด หรืออย่างน้อยสุดต้องอ่านภาษาจีน
(ซึ่งยากกว่าเยอะ!) ถ้าคุณสามารถอ่านภาษาจีนบนเว็บไซต์หรือแอพต่าง
ๆ ที่ทำงานแบบเดียวกับแอนดรอยด์หรือแอปเปิ้ลได้
แต่น่าเสียดายที่แอพจีนส่วนใหญ่นั้นไม่มีภาษาอังกฤษแปลให้

ดังนั้น
กลับมาที่ทางเลือกแรก สิ่งสำคัญสองอย่างที่คุณต้องจำหากคุณจะใช้ VPN ในจีน สิ่งแรกคือคุณต้องซื้อและติดตั้งก่อนไปประเทศจีน
คุณจะไม่สามารถติดตั้งได้เมื่อคุณอยู่ที่จีนแล้ว
อีกสิ่งที่สำคัญคือประเทศจีนสามารถหยุดการทำงานของ VPN เวลาใดก็ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี
จีนยังไม่เคยทำเช่นนั้นจริง ๆ เพราะบริษัทธุรกิจต่างชาติที่อยู่ในจีนมักต้องใช้ VPN ในการทำงานและสื่อสารกับองค์กรนอกประเทศ เนื่องด้วยความต้องการที่จะได้เงินจากนักลงทุนต่างชาติและธุรกิจต่อไปเรื่อย
ๆ VPN ก็ถือว่าเป็นที่ยอมรับแล้ว
ดังนั้นเมื่อคุณติดตั้ง VPN แล้วคุณก็จะสามารถใช้อินเตอร์เนตได้ตามปกติในประเทศจีน และคุณก็จะสามารถเข้าแอพและเว็บไซต์โปรดของคุณได้อย่างไร้กังวล

ฉะนั้น
อย่าให้กำแพงเมืองจีนมาปิดกั้นคุณระหว่างการเดินทาง! เพราะตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าจะเข้าเว็บไซต์โปรด
(และเปิดแอพโปรดของคุณ) ได้ยังไงในประเทศจีน
ทริปของคุณก็จะยอดเยี่ยมอย่างที่คุณต้องการ!

ไม่เพียงแต่ทริปในประเทศจีนเท่านั้น
Traveler’s
Wifi ยังมีการให้บริการมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก!

 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

Back to Blog