ตุลาคม 23, 2018
คนที่ใจเต้นกระสับกระส่ายทุกครั้งเมื่อเป็นเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่กำลังจะกลายมาเป็นประเด็นร้อนในอนาคตอันใกล้นี้ นั่นก็คือ eSIM มันคืออะไร? มันทำงานยังไง? และมันจะมีประโยชน์อะไรกับคุณ? สิ่งนี้คือสิ่งที่พวกเราจะมาเจาะประเด็นเหล่านี้และอื่น ๆ ตามมา
eSIM คืออะไร?
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า eSIM ไม่ได้เป็นอะไรบ้าง แค่เริ่มจากการเติมตัว “e-” ไปด้านหน้า คุณก็อาจจะทึกทักกันเอาเองว่า eSIM ย่อมาจาก ‘electronic’ SIM แต่ว่าในกรณีนี้ คุณคิดผิด ตัว “e-” ในที่นี่ย่อมาจาก ‘embedded’ นั่นหมายความว่าเจ้า
ซิมตัวนี้จะถูกฝังถาวรไปกับอุปกรณ์ต่าง ๆ อาจพูดได้ว่าคือการบัดกรีลงบนแผงโคจรไปเลย แต่ว่าทำไมเราจะต้องอยากทำแบบนั้นด้วย? เอาล่ะ เพื่อจะตอบคำถามนี้ ลองมองย้อนกลับไปและบอกตัวเองว่าซิมในรูปแบบปกตินั่นคืออะไร
คนส่วนใหญ่ทราบดีว่ามือถือจะบรรจุสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า SIM Card อยู่ในนั้น และสำหรับหลาย ๆ คน สิ่งนี้เป็นแค่สิ่งที่เราต้องสอดเข้าไปในมือถือเพื่อให้มัน “ทำงาน” และเป็นแค่บางอย่างที่เราต้องเปลี่ยนเมื่อเดินทางไปต่างประเทศเพื่อใช้สัญญาณท้องที่และหลีกเลี่ยงค่าโรมมิ่งมูลค่ามหาศาล
SIM ย่อมากจาก Subscriber Identity Module ซึ่งคือการ์ดขนาดเล็กที่ให้อุปกรณ์สื่อสารตรวจสอบความถูกต้องและการเข้าถึงสัญญาณจากเจ้าของซิมซึ่งถือเป็น subscriber หรือผู้ติดตามสัญญาณ
เจ้าตัว eSIM ก็ทำงานเช่นเดียวกัน แต่ข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือชิ้นส่วนและข้อมูลภายในตัวเครื่องไม่สามารถลบหรือแทนที่กันได้
มันทำงานยังไง?
เราไม่จำเป็นต้องไปลึกจนถึงรายละเอียดเทคนิคเฉพาะว่าเจ้าeSIMมันทำงานยังไง ในเมื่อสิ่งที่เราสนใจจริง ๆ คือ มันจะส่งผลกระทบอย่างไรกับผู้ใช้ทั่วไป ว่ากันสั้น ๆ คือมันจะทำงานที่คล้ายกับซิมเดิมที่เอาออกได้ เชื่อมต่อสัญญาณ และตรวจสอบความถูกต้องของอุปกรณ์ ข้อแตกต่างหลักจริง ๆ คือเจ้า eSIM สามารถทำงานในระดับซอฟต์แวร์ซึ่งทำให้มันรีเซ็ตโปรแกรมได้นั่นเอง เพราะแทนที่จะต้องให้ผู้ให้บริการสัญญาณคอยบริการซิมการ์ดใหม่เรื่อย ๆ ก็ให้เจ้าสัญญาณเชื่อมต่อและตรวจสอบความถูกต้องผ่าน eSIM ได้โดยตรงเลย ซิมที่ฝังไปกับตัวเครื่องก็จะคอยอัพเดตโดยไม่ต้องถอดซิมออกจากเครื่อง และทำให้การบริการออนไลน์ทำได้ทันทีและเปิดโอกาสให้มีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อย่างกว้างขวาง
แล้วประโยชน์จากพวกนี้คืออะไร?
เรามาดูกันว่าประโยชน์ชัด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่นี้มีอะไรบ้าง :
- ไม่ต้องรอซิมการ์ดใหม่เมื่อเปลี่ยนมือถือ
ไม่ต้องคอยมาเปลี่ยนซิมการ์ดหรือนั่งรอซิมใหม่มาส่งทุกครั้งเมื่องมี eSIM ที่ติดมากับเครื่องและพร้อมที่จะให้บริการสัญญาณ ยังสามารถทำให้ตั้งรหัสมือถือและอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย eSIM ได้ง่ายขึ้น
- สามารถเปรียบเทียบสัญญาณและเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น
เมื่อมี eSIM ก็คงจะง่ายขึ้นมากที่จะเปรียบเทียบสัญญาณโทรศัพท์และเปลี่ยนระหว่างกันไปมา ง่าย ๆ แค่กดในเมนูตั้งค่า ทุกคนก็จะไม่ถูก “ขัง” ไว้ในผู้ให้สัญญาณเดียว
- ไม่ต้องเปลี่ยนซิมในระหว่างการท่องเที่ยว
เมื่อคุณสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายท้องถิ่นโดยตรงกับ eSIM ของคุณ คุณก็จะสามารถค้นหาเครือข่ายที่มีอยู่และกดใช้ตราบเท่าที่คุณอยู่ และไม่ต้องคอยซื้อซิมตามที่ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการสุ่มเสี่ยงจะทำซิมตัวเองหายไประหว่างทางอีกแล้ว
อีกทางที่จะประหยัดเงินของคุณก็คือการใช้ Wifi Calling กดอ่านบทความเกี่ยวกับรายละเอียดและวิธีการใช้ได้ที่นี่
- มีหลายเบอร์ได้ง่ายขึ้น
การใช้ eSIM จะทำให้ง่ายขึ้นที่จพเปลี่ยนเบอร์ระหว่างกัน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีเบอร์เพื่อไว้ทำงานกับคุยส่วนตัว ก็จะสามารถมีไว้ในเครื่องเดียวกันได้
- มือถือเครื่องเล็ก แต่ฟังก์ชั่นใหญ่
พื้นที่ที่ใช้จากซิมแบบเก่า ๆ ก็จะมีเหลือมากขึ้นให้เหล่านักพัฒนาได้หาทางใช้พื้นที่นั่นในแบบใหม่ มือถือก็จะเริ่มบางขึ้นและมีฟีเจอร์ใหม่ที่ปรากฏขึ้นจากฝึมือนักพัฒนาที่เห็นหนทางใหม่ ๆ จากพื้นที่ว่างของโทรศัพท์ตรงนั้น สิ่งที่เป็นไปได้อย่างหนึ่งคือแบตเตอรี่ที่อาจจะพัฒนาทำให้ยาวขึ้นไปอีก
- ถอด จัดการ รับ และลบข้อมูลทิ้งได้ง่ายขึ้น
เมื่อใช้ eSIM การเข้าถึง จัดการ รับ และลบข้อมูลจะง่ายขึ้นจากการอุปกรณ์ทางไกล
- ให้บริการมากขึ้น ค่าบริการถูกลง
ความสามารถของผู้ใช้บริการที่จะเปลี่ยนค่ายไปมา ๆ ก็จะทำให้บริษัทเล็ก ๆ สามารถรุ่งเรืองและเพิ่มอัตราการแข่งขันได้ นั่นทำให้มูลค่าการให้บริการสำหรับการโทรและอินเทอร์เน็ตถูกตามไปด้วย
- Internet of Things (อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง)
เทคโนโลยีใหม่นี้จะกลายเป็นคุณประโยชน์มากมายสำหรับ “อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง” ยกตัวอย่างเช่น มีความเป็นไปได้ว่าเราจะอัพเดทซิมได้โดยไม่ต้องดูที่ตัวซิมการ์ดและคอยเปลี่ยนเรื่อย ๆ หรือแม้กระทั่งการเชื่อมต่อข้ามอุปกรณ์ก็จะลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
ข้อเสียของมันคืออะไรบ้างล่ะ?
อาจจะมีข้อเสียอยู่เล็กน้อยสำหรับ eSIM ก็คือเมื่อมันถูกเชื่อมติดกับอุปกรณ์แล้ว มีความเป็นไปได้ว่าทุกครั้งที่คุณอยากเปลี่ยนมือถือ คุณอาจจะต้องโทรหารบริษัทมือถือนั่นเพื่อขอให้เปิดบริการเครื่องใหม่ซึ่งอาจจะทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดได้ อย่างไรก็ตาม เป็นสมมุติฐานว่าบริษัทมือถือจะมาพร้อมกับกระบวนการต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ต่อไป
จะให้บริการในยุโรปไหม?
แน่นอนว่า เทคโนโลยีที่ได้มีมาสักพักแล้ว เช่นปี 2011 ที่จริง ๆ แล้วสิ่งนี้อาจจะยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายมาก อย่างไรก็ตาม the Series Three Apple Watch ซึ่งรวมไปถึง eSIM และก็จะวางขายใน iPhone XS และ iPhone XS Max บริษัท Pixel 2 ของ Google ซึ่งปล่อยมาแล้วในปลายปี 2017 นอกจากนี้ยังมีการทำงานกับเทคโนโลยีด้วย สิ่งเดียวที่เป็นกังวลกับเรื่องนี้คือเวลาก่อนที่ eSIM จะกลายเป็นวัฒนธรรมในยุโปรหรือที่อื่น ๆ
แล้ว eSIM จะเปลี่ยนดีไซน์โทรศัพท์ได้ยังไง?
เมื่อมีซิมการ์ดที่ฝังกับตัวเครื่องนั่นจะทำให้ประหยัดพื้นที่บนเครื่องเอง และยังทำให้โทรศัพท์ในอนาคตนั่นมีความบางมากขึ้น และยังสามารถประหยัดพื้นที่ของตัวโทรศัพท์เพื่อให้ผู้พัฒนาได้ใช้บริเวณนั้นทำอย่างอื่น ความเป็นไปได้หนึ่งอย่างคือการพัฒนาอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น แต่สำหรับการพัฒนาด้านอื่น ๆ เรายังต้องรอและจับตามองต่อไป
eSIM จะเปลี่ยนวิถีการใช้อุปกรณ์สื่อสารยังไง?
การเปลี่ยนแปลงหลักก็คือเราจะไม่ต้องคอยแกซิมการ์ดมาเปลี่ยนเมื่อเราเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ eSIM จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการทั้งหมดง่ายและไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยว นั่นหมายความว่าหลังจากนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อซิมท้องถิ่นอีกแล้ว คุณจะสามารถใช้บริการตามที่ท้องถิ่นและใช้ตลอดระยะการเดินทางก็ยังได้
ซิมฝังแล้ว อนาคตที่กำลังมา แต่ว่ายังไม่เป็นปัจจุบัน
ซิมฝังเครื่องเป็นสิ่งที่คนเรียกกันทั่วไปในหลายปีมานี้ แต่ว่าก็ยังไม่สามารถใช้งานได้จริงทั้งหมด ถ้าคุณอยากจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในระหว่างการเดินทาง ตรวจสอบที่บทความ การแก้ปัญหา wifi บนมือถือ ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไม่จำกัด ทุกที่ ๆ คุณเดินทางท่องเที่ยวนั่นเอง